ปิดซีซั่นเอฟวัน ลูอิส ปิดฉากเมอร์เซเดส
การแข่งขันฟอร์มูล่า ลูอิส วัน ฤดูกาล 2024 สนามสุดท้ายของปี รายการอาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ ที่สนามยาส มาริน่า เซอร์กิต กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แลนโด้ นอร์ริส นักขับชาวอังกฤษ จากแม็คลาเรน เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 26 นาที 33.291 วินาที อันดับ 2 การ์ลอส ไซนน์ นักแข่งชาวสเปน จากทีมเฟอร์รารี่ ตามหลัง 5.832 วินาที และอันดับ 3 ชาร์ลส์ เลอแคลร์ จากเฟอร์รารี่ ตามหลัง 31.928 วินาที ชัยชนะของ นอริส ทำให้“แม็คลาเรน” คว้าแชมป์โลกในประเภททีม หรือผู้สร้าง(Team Constructors) เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี หลังจากที่เคยทำได้ในปี 1998 โดยมี 666 คะแนนทิ้งห่าง เฟอร์รารี่ ที่ได้อันดับ 2 รวม14 คะแนน
ขณะที่ แม็กซ์ เวอร์สแต๊พเพ่น จากเนเธอร์แลนด์ แห่งทีมเรดบูลล์ เรซซิ่งคว้าแชมป์โลก ลูอิส โดยกวาดคะแนนไปได้ทั้งสิ้น 437 คะแนน ตามด้วย แลนโด้ นอร์ริส 374 คะแนน และชาร์ลส์ เลอแคลร์ 356 คะแนน ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งชาวไทย จากทีมวิลเลี่ยมส์สนามนี้จบอันดับที่ 11 และได้อันดับที่ 16 ในซีซั่น ทำไป 12 คะแนน
ทีมวิลเลี่ยมส์ของ อัลบอน ได้อันดับ 9 ในประเภทผู้สร้าง ทำได้ 17 คะแนน
ส่วน เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัยชาวอังกฤษ วัย 39 ปี ปิดตำนาน 11 ปีกับทีมเมอร์เซเดส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเขาย้ายจาก แม็คลาเรน มาอยู่กับ เมอร์เซเดส เมื่อปี 2013 โดยตลอดเวลาที่อยู่ในค่าย “ซิลเวอร์ แอร์โรว์” เขาทำสถิติเป็นแชมป์กับเมอร์เซเดส 84 สนาม ขึ้นโพเดี้ยม153 ครั้ง และแชมป์โลก 6 สมัย โดยปีนี้เขาได้แชมป์ 2 สนาม นั่นคือ บริติช กรังด์ปรีซ์ และเบลเยียม กรังด์ปรีซ์ จบอันดับที่ 7 มี 223 คะแนน ซึ่งปีหน้าจะไปอยู่กับ เฟอร์รารี่
ลูอิส แฮมิลตัน นักขับเอฟวันดีกรีแชมป์โลก 7 สมัยเปิดใจหลังลงแข่งให้กับ เมอร์เซเดส เป็นเรซสุดท้าย และเป็นการปิดฉากช่วงเวลา 12 ปีกับทีมดังกล่าว โดยชี้เป็นปีที่วุ่นวาย แต่ก็เป็นการปิดฉากด้วยดี โดย แฮมิลตัน ซึ่งอยู่กับ เมอร์เซเดส มาถึง 12 ปี ลูอิส และคว้าแชมป์โลกได้ถึง 6 สมัย (2014, 2015, 2017, 2018, 2019, 2020) จะย้ายไปอยู่กับ เฟอร์รารี ในฤดูกาลหน้า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นักขับวัย 39 ปีได้ลงแข่งขันให้กับ เมอร์เซเดส เป็นสนามสุดท้ายในรายการ อาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ 2024 ที่ยาสมารีนาเซอร์กิต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของซีซั่นด้วย ผลปรากฏว่า แฮมิลตัน ที่ออสตาร์ตในอันดับ 16 พาตัวเองซิ่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 4
หลังการแข่งขัน แฮมิลตัน กล่าวถึงความรู้สึกในการปิดฉากกับ เมอร์เซเดส
ว่า “อาจเป็นปีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของผม ลูอิส เมื่อผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมกำลังจะจากไป” “มันเหมือนกับความสัมพันธ์ที่คุณบอกกับใครก็ตามว่าคุณจะจากไป แต่คุณทั้งสองต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งปี มีขึ้นมีลงมากมาย แต่วันนี้เราก็จบลงอย่างยอดเยี่ยม” Formula 1 (F1) “ทุกช่วงเวลาที่ผมรู้คือมันเป็นช่วงเวลาสุดท้าย และมันชัดเจนมาก และยากจริงๆ ที่จะปล่อยวาง ตอนที่ผมหยุดรถ ผมอยากโอบรับช่วงเวลานั้น การเป็นตัวแทนของ เมอร์เซเดส คือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ผมแค่รู้สึกขอบคุณ จิตวิญญาณของผมที่ไม่ยอมแพ้ และพลังของทุกคนที่ทำให้ผมสร้างรถคันนี้ได้ ผมภูมิใจในตัวทุกคน” ทั้งนี้แชมป์โลกประจำฤดูกาลคือ มักซ์ แฟร์สตัปเปน จาก เรดบูลล์ เรซซิง ส่วนแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิตคือ แม็คลาเรน ซึ่งเป็นแชมป์ดังกล่าวครั้งแรกรอบ 26 ปีด้วย