เร็ดบุลเรซซิง (อังกฤษ: Red Bull Racing) หรือรู้จักกันในชื่อทั่วไปว่า เร็ดบุล

เร็ดบุลเรซซิง

เร็ดบุลเรซซิง (อังกฤษ: Red Bull Racing) หรือรู้จักกันในชื่อทั่วไปว่า เร็ดบุล

เร็ดบุลเรซซิง และเข้าแข่งขันในชื่อ ออเรเคิลเร็ดบุลเรซซิง เป็นทีมแข่งรถสูตรหนึ่ง โดยถือใบอนุญาตประเทศออสเตรียและมีที่ตั้งอยู่ที่มิลตัน คียน์ส สหราชอาณาจักร ทีมแข่งขันโดยถือใบอนุญาตประเทศบริติชตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2006 และแข่งโดยถือใบอนุญาตประเทศออสเตรียตั้งแต่ปี 2007  เป็นหนึ่งในสองทีมแข่งรถสูตรหนึ่งที่เร้ดบูลเป็นเจ้าของ อีกหนึ่งทีมคือสกูเดเรียอัลฟ่าเทารี่

ถ้าจะให้พูดถึงทีมกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ร้อนแรงที่สุดในโลกเวลานี้ ไม่มีชื่อของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง คงจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะในการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ ฟอร์มูล่าวัน 2023 ฤดูกาลล่าสุด พวกเขาเพิ่งจะคว้าแชมป์โลกทั้งประเภททีมผู้ผลิต  เร็ดบุลเรซซิง และประเภทนักขับที่ มักซ์ เวอร์สแตพเพน ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ไปแล้วเรียบร้อย โดยแชมป์ประเภททีมก็ทะยานขึ้นไปถึงสมัยที่ 6 แล้ว แม้ประวัติศาสตร์ของทีมจะไม่ยาวนานเท่าทีมที่เราคุ้นหูกันอย่างพวก เฟอร์รารี่, เมอร์เซเดส, แมคลาเรน

เพราะพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 2005 แต่หากดูจากความสำเร็จในปัจจุบัน ก็คงไม่ยากที่จะขึ้นไปเทียบชั้นบรรดาทีมระดับตำนานได้ และในวันนี้เราจะพาทุกคนย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของทีม เรดบูลล์ เรซซิ่ง ไล่เรียงมาจนถึงซีซันล่าสุด ซึ่งดูแล้ว ‘กระทิงดุแห่งออสเตรีย’ ฝูงนี้ อาจจะครองวงการฟอร์มูล่าวันยุคปัจจุบันไปอีกสักระยะ ถ้าพร้อมแล้ว ติดตามไปกับ Spacebar VIBE ได้เลย

จุดเริ่มต้นของทีมมีมูลค่าแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

จุดเริ่มต้นจริงๆ ของ เรดบูลล์ เร็ดบุลเรซซิง  ในวงการฟอร์มูล่าวัน ไม่ใช่การเริ่มต้นในฐานะทีมผู้ผลิต แต่พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้สนับสนุนให้กับทีม เซาเบอร์ เอฟวัน มาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปี 2004 โดยหลังจากการเป็นเพียงสปอนเซอร์มายาวนานถึง 9 ปี เต็ม ในปี 2005 นักธุรกิจและมหาเศรษฐีชาวออสเตรีย ‘ดีทริช เมเทสซิทซ์’ เจ้าของเรดบูลล์ในต่างประเทศก็ตัดสินใจซื้อทีม จากัวร์ เรซซิ่ง ซึ่งในเวลานั้น ฟอร์ด เป็นเจ้าของทีมด้วยมูลค่าเพียงแค่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แลกกับเงื่อนไขหนึ่งข้อนั่นก็คือ หลังจากซื้อกิจการแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องลงทุนกับทีมด้วยจำนวนเงิน 400 ล้านดอลลาร์ฯ เป็นเวลา 3 ฤดูกาล โดยจะยังใช้เครื่องยนต์ คอสเวิร์ธ ได้ต่อไป และสามารถเปลี่ยนชื่อทีมได้

Formula 1 (F1) หลังจากนั้นก็แต่งตั้ง คริสเตียน ฮอร์เนอร์ อดีตนักแข่งรถรายการฟอร์มูล่า 3000 เข้ามาเป็นหัวหน้าทีม  เร็ดบุลเรซซิง ซึ่งทำให้เวลานั้นเขากลายเป็นหัวหน้าทีมที่อายุน้อยที่สุดในวงการ ต่อด้วยการดึง เอเดรียน นิวอี้ ผู้ที่เคยสร้างรถฟอร์มูล่าวันระดับแชมป์โลกให้กับทีมอย่าง วิลเลียมส์ เรซซิ่ง และ แมคลาเรน เข้ามาเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของทีม โดยในฤดูกาลแรก พวกเขาก็ทำผลงานจบกลางตารางด้วยอันดับที่ 7 ในฐานะทีมผู้ผลิตด้วยคะแนนรวม 34 คะแนน

ช่วงเวลาที่รอคอยกับแชมป์โลก 3 สมัยรวด

เร็ดบุลเรซซิง

หลังจากเข้าใกล้ความสำเร็จแบบสุดขีดในฤดูกาล 2009  เร็ดบุลเรซซิง ให้หลังเพียงแค่ปีเดียว ช่วงเวลาที่ทีมกระทิงแห่งออสเตรียรอคอยก็มาถึง เมื่อพวกเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกสมัยแรกนับตั้งแต่เข้าสู่วงการฟอร์มูล่าวันได้สำเร็จ โดยในปีนั้น เซบาสเตียน เวทเทล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเป็นผู้ชนะได้ถึง 5 สนาม และยืนบนโพเดียมทั้งหมด 10 สนาม จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์โลกนักแข่ง บวกกับผลงานที่น่าพอใจของ มาร์ค เว็บเบอร์ นักขับอีกคนของทีม ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาขึ้นไปสัมผัสเกียรติยศของแชมป์โลกทีมผู้ผลิตได้เสียที เอาชนะทั้ง แมคลาเรน, เฟอร์รารี่ และ เมอร์เซเดส ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ต่อจากนั้น เรดบูลล์ ก็ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวของเวทเทลที่ฟอร์มฮอตเอามากๆ เพราะในปี 2011 เขาสามารถคว้าแชมป์ไปได้ถึง 11 สนาม จากทั้งหมด 19 สนาม แถมในช่วง 9 เรซแรก เขายังจบอันดับด้วยการยืนบนโพเดียมได้ทั้งหมด จบปีไปด้วยคะแนนรวมมากถึง 392 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง เจนสัน บัตตัน ของทีมแมคลาเรน ที่ทำได้ 270 คะแนน ทำให้อันดับในตารางคะแนนทีมผู้ผลิต เรดบูลล์ เรซซิ่ง เอาชนะแมคลาเรนไปได้แบบขาดลอยมากถึง 153 คะแนน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *