ประวัติ Sergio Pérez
นักแข่งชาวเม็กซิโกอายุ 34 ปี Sergio Pérez ผลผลิตจาก Ferrari Driver Academy เริ่มต้นเข้าสู่วงการ Formula 1 เมื่อปี 2011 กับทีม Sauber แทนที่ของ Nick Heidfeld ท่ามกลางเสียงนินทาว่า เข้ามาอยู่ในทีมได้เพราะสปอนเซอร์ส่วนตัวของเขา Telita ค่ายโทรคมนาคมใหญ่ของเม็กซิโก เพราะหลังการประกาศไม่นาน ก็ได้มีการประกาศเพิ่มเติมเรื่องการสนับสนุนทีมของ Telita ตามมา แต่ฝีมือเขาก็มีเยอะจริง
เพราะแค่สนามแรกที่ลงแข่ง เขาสามารถคว้าอันดับที่ 7 ไปได้ โดยใช้การเปลี่ยนยางแค่ครั้งเดียว แต่สุดท้ายก็ถูกจับ Disqualified จากการทำผิดกฎเรื่องทางเทคนิค สุดท้ายปีแรกจบด้วยอันดับ 16 ด้วยการเก็บไป 14 คะแนน ปีต่อมา Sergio Pérez ก็ยังขับให้กับทีมเดิมอยู่ แต่ปี 2013 เขาได้เซ็นสัญญาเพื่อไปขับให้กับ Mclaren แทนที่ของ Lewis Hamilton ที่ย้ายไปขับให้กับ Mercedes ซึ่งผลงานของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย กับการเก็บได้ 49 คะแนน จบเป็นอันดับที่ 11 แต่ก็อยู่ได้เพียงปีเดียว ก็ตัดสินใจย้ายไปขับให้กับ Force India ในปี 2014 ซึ่งเริ่มเปิดตัวได้ดี เมื่อสามารถขึ้นโพเดียมในตำแหน่งที่ 3 ในสนาม
Bahrain Grand Prix แล้วก็ประคองฟอร์มอยู่กลางตารางได้
จนจบที่ 10 ด้วย 59 คะแนน Sergio Pérez และยังขับในทีมเดิมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานล่าสุดฤดูกาล 2019 Sergio Pérez จบด้วยอันดับที่ 10 มี 52 คะแนน และปีที่แล้วก็สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างเต็มที่ คว้าแชมป์ไปได้ 1 รายการ และเก็บแต้มสะสมรวมจบอันดับที่ 4 ทั้งที่อยู่ในทีมระดับกลาง แต่ก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งเดิมในทีม Racing Point ไส้ได้ เพราะการมาของอดีตแชมป์โลกอย่าง Sebastian Vettel ด้วยความที่ยังดวงแข็งของ “เช็กโก้” ที่ทีม Red Bull Racing ดันยังไม่พอใจฟอร์มของนักแข่งลูกครึ่งชาวไทย Alexander Albon เลยตัดสินใจดึงเขาเข้ามาร่วมทีมในสัญญาระยะสั้น 1 ปี
แล้วดัน “น้องเล็ก” ไปเป็นนักขับสำรองแทน ซึ่งต้องบอกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ เขาตอบแทนทีมได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเช็กโก้ถือเป็นนักขับที่ช่วยผลักดันให้ Verstappen สามารถทำฟอร์มดีจนถึงคว้าแชมป์โลกได้ และได้ต่อสัญญาไปอีก Formula 1 (F1) จนปี 2022 เจ้าตัวเก็บชัยชนะสนามไปได้ 2 ครั้ง ทำคะแนนสะสมรวมได้เป็นอันดับที่ 3 ดีที่สุดในชีวิตการแข่งขันของเขาเลย แต่ในปี 2023 กลับเป็นปีที่ฟอร์มตกลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าจะเก็บชัยชนะได้ 2 สนาม และทำคะแนนรวมจบอันดับที่ 2 ของโลก แต่เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Max Verstappen แล้ว เขายังทำได้ไม่ใกล้มากพอทั้งเรื่องของเวลาในการแข่งขันและคะแนนที่สามารถทำได้ ทำให้เป็นไปได้สูงว่า Sergio Pérez ปีนี้ทาง Red Bul Racing คงไม่ต่อสัญญาที่กำลังจะหมดลง และอาจจะไม่มีทีมไหนเซ็นสัญญาเอาเขาไปร่วมทีมอีก เพราะด้วยอายุที่มากแล้วนั่นเอง
เปเรซ เกิดและเติบโตในเมืองกัวดาลาฮารา รัฐฮาลิสโกเขาเริ่มแข่งรถโกคาร์ตตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อเขาเรียนจบ ชั้นจูเนียร์ฟอร์ มูลาในปี 2004 เปเรซก็สามารถคว้าแชมป์ระดับประเทศรายการBritish Formula 3 International Series ประจำปี 2007 ได้ เป็นครั้งแรก จากนั้น เขาก็ได้เข้าร่วมรายการGP2 Seriesในปี 2009 และจบ ฤดูกาลถัดมาด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศให้กับPastor Maldonadoร่วมกับAddax เปเรซ ซึ่งเป็นสมาชิกของFerrari Driver Academyตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2012 ได้เซ็นสัญญากับSauberในปี 2011
โดยมีคู่หูคือ Kamui Kobayashi ลงแข่งขัน Formula One
เป็นครั้งแรกในรายการ Australian Grand Prix ซึ่งทั้งคู่ถูกสั่งห้ามลงแข่งเนื่องจากใช้ปีกหลังผิดกฎ เปเรซประสบความสำเร็จมากขึ้นกับทีมในปี 2012โดยได้ขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกในมาเลเซียและทำซ้ำความสำเร็จนี้ Sergio Pérez อีกครั้งในแคนาดาและอิตาลีด้วยความสำเร็จของเขาที่ Sauber ทำให้เปเรซได้รับการขนานนามว่าเป็น ” สุดยอดนักแข่งชาวเม็กซิกัน ” สำหรับ ฤดูกาล 2013เปเรซย้ายไปแม็คลาเรนแทนที่ลูอิส แฮมิลตันและย้ายไปจับคู่กับเจนสัน บั ตตัน หลังจากไม่ได้ขึ้นโพเดียมกับแม็คลาเรนมาทั้งฤดูกาล เปเรซก็เซ็นสัญญากับ ฟอร์ซอินเดียในปี 2014เขาขึ้นโพเดียมได้ 5 ครั้งกับทีม ก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนชื่อเป็นเรซซิ่งพอยต์ในช่วงกลางฤดูกาล 2018
เปเรซคว้าอันดับที่สี่ในการแข่งขันชิงแชมป์ร่วมกับทีม Racing Point ในปี 2020โดยคว้าชัยชนะครั้งแรกในอาชีพของเขาที่ Sakhir Grand Prix โดยอยู่อันดับสุดท้ายในตอนท้ายของรอบแรก เปเรซถูกแทนที่โดยเซบาสเตียน เวทเทล ที่ Aston Martin ที่เปลี่ยนชื่อใหม่ในปี 2021และเซ็นสัญญากับ Red Bull เพื่อร่วมทีมกับแม็กซ์ เวอร์ส แตปเพน เขาคว้าชัยชนะครั้งแรกให้กับทีมที่ Azerbaijan Grand Prix ปี 2021 Sergio Pérez เปเรซคว้าชัยชนะอีกครั้งในปี 2022ที่ Monaco และ Singapore Grands Prix ซึ่งเป็นหนึ่งใน ตำแหน่งโพลโพ ซิชัน ครั้งแรกของเขาในซาอุดีอาระเบียโดยจบฤดูกาลในอันดับที่สาม เปเรซจบอันดับรองชนะเลิศให้กับ Verstappen ในการแข่งขันWorld Drivers’ Championship ปี 2023หลังจากคว้าชัยชนะเพิ่มเติมในซาอุดีอาระเบียและอาเซอร์ไบจาน